หลายคู่แต่งงานที่พยายามมีลูก และเลือกใช้วิธี IUI (Intrauterine Insemination) ในการรักษาภาวะมีบุตรยาก เนื่องจากเป็นวิธีที่ไม่ซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายไม่สูงนัก แต่ก็มีคู่สมรสจำนวนไม่น้อยที่ต้องเผชิญกับความผิดหวัง เพราะยังไม่สามารถตั้งครรภ์ได้อย่างที่หวังไว้ ดังนั้น การเข้าใจปัจจัยที่ทำให้ IUI ไม่ติดจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้คู่รักมองเห็นแนวทางแก้ไข พร้อมปรับเปลี่ยนวิธีการดูแลตนเอง และเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์ให้มากขึ้น
IUI คืออะไร ?
IUI มีชื่อเต็มว่า Intrauterine Insemination ส่วนในภาษาไทยจะเรียกว่า ‘การฉีดน้ำเชื้อเข้าสู่โพรงมดลูก’ เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาภาวะมีบุตรยากที่แพทย์มักแนะนำให้แก่คู่รักที่พยายามมีลูกแต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ หลักการสำคัญของกระบวนการนี้ คือการเก็บอสุจิจากฝ่ายชาย เพื่อนำไปคัดเลือกอสุจิที่มีคุณภาพ แข็งแรง และเคลื่อนไหวได้ดี จากนั้นฉีดเข้าสู่โพรงมดลูกของฝ่ายหญิงในวันที่ไข่ตก เพื่อให้สเปิร์มสามารถเคลื่อนที่เข้าไปปฏิสนธิกับไข่ นำไปสู่การตั้งครรภ์ได้ง่ายขึ้น ความสมบูรณ์ของไข่และอสุจิจึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกำหนดว่าการทำ IUI จะสำเร็จหรือไม่
สาเหตุที่ทำ IUI ไม่ติดส่งผลกระทบต่อการวางแผนตั้งครรภ์
แม้ว่ากระบวนการ IUI จะช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ได้ แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่รักษาด้วยวิธีนี้แล้วไม่ประสบความสำเร็จ ซึ่งส่วนใหญ่สาเหตุที่ทำ IUI ไม่ติด มักเกิดจากปัจจัยเหล่านี้
อายุและคุณภาพไข่ของฝ่ายหญิง
ปัจจัยนี้มีความสำคัญสูงสุดในการกำหนดผลลัพธ์ของการทำ IUI เนื่องจากคุณภาพของไข่จะลดลงตามอายุของฝ่ายหญิง โดยเฉพาะกับผู้หญิงที่มีอายุ 36 ปีขึ้นไป ซึ่งไข่จะลดลงทั้งในแง่ของปริมาณและคุณภาพ เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้การปฏิสนธิล้มเหลว หรือตัวอ่อนไม่สามารถฝังตัวได้สำเร็จ
จำนวนและคุณภาพสเปิร์มของฝ่ายชาย
แม้ว่าการทำ IUI จะช่วยเพิ่มความเข้มข้นของสเปิร์มที่ผ่านการคัดเลือกให้เข้าไปใกล้ท่อนำไข่มากขึ้น แต่หากฝ่ายชายมีจำนวนสเปิร์มที่มีชีวิตน้อย หรือมีรูปร่างและเคลื่อนไหวผิดปกติมาก ก็มีความเสี่ยงที่จะทำ IUI ไม่ติดเช่นกัน ทั้งนี้ ปริมาณของสเปิร์มที่แข็งแรงดีควรจะไม่ต่ำกว่า 5 ล้านตัว สำหรับการทำ IUI ในแต่ละครั้ง
ภาวะของเยื่อบุมดลูกและท่อนำไข่
ความหนาและคุณภาพของเยื่อบุโพรงมดลูกมีความสำคัญต่อการฝังตัวของตัวอ่อน หากเยื่อบุโพรงมดลูกบางเกินไป (น้อยกว่า 8 มิลลิเมตร) หรือมีภาวะผิดปกติ เช่น มดลูกอักเสบเรื้อรังหรือเกิดพังผืดในโพรงมดลูก ก็อาจส่งผลให้การทำ IUI ไม่ติดได้ และหากท่อนำไข่อุดตันทั้งสองข้าง การฉีดเชื้อจะไม่สามารถทำให้เกิดการปฏิสนธิได้ เนื่องจากการทำ IUI เป็นเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ระดับพื้นฐาน จึงยังต้องอาศัยกลไกตามธรรมชาติของร่างกายอยู่
เวลาและรอบการตกไข่ไม่สัมพันธ์กัน
การทำ IUI ต้องทำในช่วงเวลาที่ไข่ตกเท่านั้น โดยทั่วไปคือ 36 ถึง 44 ชั่วโมงหลังจากการฉีดยาเร่งไข่ตก ถ้าฉีดเชื้อเร็วหรือช้าเกินไป จะทำให้ไข่และอสุจิไม่สามารถพบกันได้ทันเวลา ส่งผลให้การทำ IUI ล้มเหลว
พฤติกรรมและสุขภาพโดยรวมของคู่สมรส
ปัจจัยด้านไลฟ์สไตล์มีผลต่อคุณภาพของเซลล์สืบพันธุ์และการตั้งครรภ์โดยรวมหลายประการ เช่น
- ภาวะน้ำหนักตัวมากหรือน้อยเกินไป ทำให้ BMI ไม่สมดุล
- การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ หรือการใช้สารเสพติดอื่น ๆ ส่งผลเสียต่อคุณภาพไข่และสเปิร์มโดยตรง
- ภาวะความเครียดสูง (Chronic Stress)
- โรคประจำตัวที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น เบาหวาน หรือต่อมไทรอยด์ทำงานผิดปกติ

วิธีเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์หลังทำ IUI
หากต้องการลดความเสี่ยงการทำ IUI ไม่ติด คู่สมรสควรให้ความสำคัญกับปัจจัยพื้นฐานที่ส่งผลต่อการปฏิสนธิและการฝังตัวอ่อน ดังนี้
- เลือกช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการตกไข่ : การฉีดเชื้อต้องทำในเวลาที่แม่นยำที่สุดหลังจากการใช้ยาเร่งไข่ตก (HCG Trigger Shot) เพื่อให้สเปิร์มไปพบไข่ได้ทันเวลา
- ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ส่งเสริมในเรื่องสุขภาพ : ควบคุมน้ำหนักให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ (BMI) รับประทานอาหารบำรุงไข่และสเปิร์ม นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสสารพิษที่ลดคุณภาพของเซลล์สืบพันธุ์
- ใช้ยากระตุ้นไข่ภายใต้คำแนะนำแพทย์ : การใช้ยาที่เหมาะสมจะช่วยให้รังไข่สร้างไข่ที่มีคุณภาพและมีจำนวนเหมาะสม ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์
- พิจารณาทางเลือกอื่น : หากทำ IUI แล้วล้มเหลว 3-4 ครั้ง โดยเฉพาะในผู้หญิงอายุ 35 ปีขึ้นไป แพทย์อาจแนะนำให้เปลี่ยนไปใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ขั้นสูงอื่น ๆ เช่น การทำ IVF หรือ ICSI ซึ่งมีอัตราความสำเร็จสูงกว่าแทน
เตรียมพร้อมก่อนวางแผนทำ IUI ครั้งต่อไป
ไม่อยากผิดหวังกับการทำ IUI ไม่ติด สิ่งที่คู่สามีภรรยาควรทำคือการเตรียมพร้อมก่อนทำ IUI อย่างรอบคอบ ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ เพื่อให้กระบวนการดำเนินไปอย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จตามที่คาดหวัง
ปรึกษาแพทย์อย่างละเอียด
ตรวจหาสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยาก หรือกรณีที่เคยรักษาด้วยการทำ IUI มาแล้ว ควรทบทวนผลการรักษาในรอบที่ผ่านมาอย่างละเอียด เช่น คุณภาพสเปิร์ม ความหนาเยื่อบุโพรงมดลูก และจังหวะเวลา นอกจากนี้ แพทย์อาจแนะนำการตรวจเพิ่มเติม เช่น การส่องกล้องโพรงมดลูก (Hysteroscopy) เพื่อตรวจหา มดลูกอักเสบเรื้อรัง รวมถึงภาวะพังผืดที่อาจไปขัดขวางการฝังตัวของตัวอ่อน เพื่อทำการรักษาก่อนเริ่มทำ IUI ในครั้งถัดไป
สำรวจสุขภาพกายและใจ
- ตรวจสอบและควบคุมโรคเรื้อรังที่ส่งผลต่อการตั้งครรภ์ เช่น เบาหวาน ความผิดปกติของต่อมไทรอยด์ ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
- ประเมินและลดระดับความเครียดอย่างจริงจัง เนื่องจากความเครียดสูงจะไปกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนคอร์ติซอล ซึ่งอาจรบกวนความสมดุลของฮอร์โมนสืบพันธุ์ได้
ความเข้าใจในกระบวนการ IUI
ทำความเข้าใจถึงขั้นตอนการรักษา ข้อจำกัด และอัตราความสำเร็จของกระบวนการทำ IUI เพื่อให้สามารถยอมรับผลลัพธ์และตัดสินใจเปลี่ยนแผนการรักษาได้อย่างมีสติ หากเกิดกรณีที่ทำ IUI แล้วไม่ติดหลายครั้ง

ข้อแนะนำหลังทำ IUI เพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในการตั้งครรภ์
การดูแลตนเองหลังการฉีดเชื้อ เป็นตัวแปรสำคัญที่จะกำหนดว่าการทำ IUI ติดหรือไม่ติด เนื่องจากการดูแลอย่างถูกวิธี จะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการฝังตัวของตัวอ่อนและทำให้เกิดการตั้งครรภ์
- พักผ่อนให้เพียงพอ : หลังทำ IUI ควรนอนนิ่ง ๆ 15-30 นาที จากนั้นสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ไม่จำเป็นต้องนอนพักตลอดเวลา แต่ควรงดกิจกรรมที่ต้องออกแรงหนักและหลีกเลี่ยงเรื่องที่ทำให้เครียด
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหักโหม : งดกิจกรรมที่ทำให้ช่องท้องถูกกระทบกระเทือนหรือออกแรงมาก เช่น การวิ่งหนัก การยกน้ำหนัก หรือการว่ายน้ำในช่วง 2-3 วันแรก เพื่อลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน
- งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ : สารเหล่านี้ส่งผลเสียต่อการฝังตัวอ่อนและสุขภาพครรภ์ในช่วงแรกอย่างรุนแรง จึงควรหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด
- ดูแลสุขภาพจิตใจ ลดความเครียด : ความเครียดเป็นอุปสรรคต่อความสมดุลของฮอร์โมน ควรหาวิธีผ่อนคลาย เช่น การฝึกโยคะเบา ๆ หรือการทำสมาธิ ทำใจให้สบาย และปฏิบัติตัวตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
การเข้าใจสาเหตุที่ทำ IUI ไม่ติด จะช่วยให้รู้วิธีวางแผนดูแลตัวเองได้ดียิ่งขึ้น หากคุณกำลังประสบปัญหามีบุตรยาก และต้องการวางแผนตั้งครรภ์ หรือสนใจทำ ICSI รวมถึงบริการเก็บอสุจิและฝากไข่เพื่อวางแผนตั้งครรภ์ในวันที่พร้อม หรือบริการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาภาวะมีบุตรยาก Bangkok IVF Clinic (BIC) พร้อมให้คำปรึกษาโดยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์และเทคโนโลยีที่ได้รับอนุญาต เพื่อช่วยวางแผนการมีบุตรอย่างเหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคลโดยเฉพาะ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:
- โทร: +(66)02-933-1584 ถึง 6
- Line@ : @Bangkokivfclinic
ข้อมูลอ้างอิง
- Why does IUI fail?. สืบค้นเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2568 จาก https://www.cryosinternational.com/en-gb/dk-shop/private/blog/iui-failure/
- 3 Crucial Factors That Determine IUI Success Rate. สืบค้นเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2568 จาก https://www.webmd.com/infertility-and-reproduction/what-is-iui-success
