ที่ Bangkok IVF Clinic (BIC) เรามีประสบการณ์ด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ยาวนานกว่า 29 ปี ดูแลโดยแพทย์เฉพาะทาง พร้อมห้องปฏิบัติการ IVF ที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ควบคู่ไปกับการใช้เทคโนโลยีและวิธีการเก็บไข่สำหรับผู้หญิง เพื่อเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการตั้งครรภ์เมื่อถึงวันที่คุณพร้อม

การเก็บไข่คืออะไร ?

การเก็บไข่ (Oocyte Retrieval) คือ ขั้นตอนทางการแพทย์ในการนำไข่ที่สุกออกมาจากรังไข่ เพื่อนำไปใช้ปฏิสนธิในห้องปฏิบัติการ หรือเก็บรักษาในรูปแบบการแช่แข็งไข่เพื่อใช้ในอนาคต ไข่ที่ได้สามารถนำมาใช้ในกระบวนการทำ IVF (เด็กหลอดแก้ว) หรือ ICSI ได้โดยตรง

ใครบ้างที่ควรพิจารณาเรื่องการเก็บไข่ ? 

การเก็บไข่เป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้หญิงหลายกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการรักษาศักยภาพในการมีบุตรในอนาคต 

• ผู้หญิงอายุระหว่าง 27–35 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่ไข่มีคุณภาพดีกว่าช่วงที่อายุมากขึ้น
• ผู้หญิงที่ยังไม่พร้อมมีบุตรในปัจจุบัน แต่ต้องการเพิ่มโอกาสความสำเร็จในอนาคต
• ผู้ที่ต้องเข้ารับการรักษาด้วยเคมีบำบัดหรือรังสีบำบัด ซึ่งอาจกระทบต่อการทำงานของรังไข่
• ผู้ที่มีประวัติครอบครัวหมดประจำเดือนก่อนวัย ทำให้เสี่ยงต่อการมีไข่ลดลงเร็วกว่าปกติ
• ผู้ที่มีอายุเกิน 35 ปี หรือมีค่า AMH ต่ำ ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ถึงปริมาณไข่สำรองในรังไข่ แพทย์มักแนะนำให้รีบเก็บไข่ไว้เพื่อเพิ่มโอกาสการใช้ในอนาคต
• คู่รักที่ต้องการใช้ไข่ในการทำ IVF หรือ ICSI เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์

ขั้นตอนการเก็บไข่ที่ Bangkok IVF Clinic 

ขั้นตอนการเก็บไข่ที่ BIC ได้รับการออกแบบมาอย่างรอบคอบและปลอดภัยในทุกขั้นตอน เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการมั่นใจได้ทั้งคุณภาพและประสิทธิภาพ โดยมีรายละเอียดดังนี้ 

การปรึกษาและตรวจประเมินก่อนเก็บไข่

ก่อนเริ่มการเก็บไข่ แพทย์จะทำการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และแนะนำแนวทางการรักษาที่เหมาะสม โดยจะมีการตรวจเลือดเพื่อวัดระดับฮอร์โมน รวมถึงการตรวจอัลตราซาวนด์เพื่อประเมินจำนวน Follicle ที่มีอยู่ในรังไข่ (Follicle คือ ถุงหรือฟองที่อยู่ภายในรังไข่ ซึ่งมีเซลล์ไข่ (Oocyte) อาศัยอยู่ภายใน)

การใช้ยาฮอร์โมนกระตุ้นรังไข่

ผู้ป่วยจะได้รับยาฮอร์โมนกระตุ้นรังไข่เพื่อให้สร้างไข่หลายใบในรอบเดือนนั้น ๆ แพทย์จะติดตามการเจริญเติบโตของ Follicle ด้วยการตรวจเลือดและอัลตราซาวนด์เป็นระยะ และเมื่อ Follicle เจริญเติบโตถึงขนาดที่เหมาะสม จะมีการกระตุ้นให้ไข่สุกเต็มที่ พร้อมสำหรับการเก็บ 

วิธีการเก็บไข่ผู้หญิง (Oocyte Retrieval Procedure)

ในวันทำหัตถการ ผู้ป่วยจะได้รับการดมยาสลบแบบอ่อนหรือยาระงับความรู้สึก (Sedation/Anesthesia) ระหว่างการเก็บไข่ แพทย์จะใช้เครื่องอัลตราซาวนด์เป็นตัวนำทาง (Ultrasound Guidance) และใช้เข็มเจาะผ่านช่องคลอดเพื่อดูดไข่ออกจาก Follicle ขั้นตอนนี้ใช้เวลาประมาณ 20–30 นาที และดำเนินการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัยอย่างเต็มที่

การฟื้นตัวหลังการเก็บไข่

หลังทำหัตถการ ผู้ป่วยจะพักฟื้นในห้องพักประมาณ 1–2 ชั่วโมงเพื่อตรวจสอบอาการ อาจมีอาการปวดหน่วงเล็กน้อยหรือท้องอืด ซึ่งมักหายไปในไม่กี่วัน ซึ่งผู้ป่วยสามารถกลับบ้านได้ในวันเดียวกัน และสามารถทำกิจวัตรประจำวันตามปกติได้ภายใน 1–2 วัน ทั้งนี้ แพทย์จะให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองอย่างละเอียดเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อน

การเตรียมตัวก่อนการเก็บไข่

การเตรียมตัวเก็บไข่ เป็นขั้นตอนสำคัญที่มีผลต่อทั้งความปลอดภัยและความสำเร็จของหัตถการ โดยผู้เข้ารับบริการควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ดังนี้

• ควรงดอาหารและน้ำอย่างน้อย 8 ชั่วโมงก่อนทำหัตถการ เพื่อความปลอดภัยระหว่างการดมยาสลบ
• หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ รวมถึงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในช่วงใกล้วันทำหัตถการ เพราะอาจส่งผลต่อร่างกายและการฟื้นตัว
• หากใช้ยาบางชนิด โดยเฉพาะยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด ควรหยุดใช้ตามคำแนะนำของแพทย์ผู้ดูแล
• เตรียมผลตรวจเลือดและผลอัลตราซาวนด์ล่าสุดเพื่อนำมาใช้ประกอบการประเมินสภาพรังไข่
• อย่าลืมแจ้งแพทย์เกี่ยวกับโรคประจำตัว ยาที่ใช้อยู่เป็นประจำ หรือประวัติการแพ้ยา เพื่อให้แพทย์สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสมและปลอดภัย

ข้อดี/ข้อจำกัดของการเก็บไข่

ข้อดี

• ไข่ที่เก็บไว้สามารถนำมาใช้ในกระบวนการ IVF หรือ ICSI เมื่อต้องการ ทำให้ไม่ต้องผ่านขั้นตอนกระตุ้นรังไข่ซ้ำ
• เป็นวิธีการฝากไข่เพื่อรักษาศักยภาพการสืบพันธุ์ในอนาคต เหมาะกับผู้หญิงที่ยังไม่พร้อมมีบุตรทันที
• หากสามารถเก็บไข่ได้จำนวนมากและมีคุณภาพสูง จะช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จในการตั้งครรภ์ในอนาคต 
• ช่วยให้ผู้หญิงที่ต้องเข้ารับการรักษาตัวที่อาจส่งผลกระทบต่อรังไข่ สามารถเก็บไข่ที่มีคุณภาพไว้ใช้ในอนาคตได้ เช่น การทำเคมีบำบัด

ข้อจำกัด

• การเก็บไข่ ราคาจะแตกต่างกันไปตามโปรแกรมที่เลือกและจำนวนครั้งในการเก็บ ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล
• อายุเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลโดยตรงต่อคุณภาพของไข่ โดยช่วงที่เหมาะสมที่สุดคืออายุระหว่าง 27–35 ปี
• การใช้ยากระตุ้นรังไข่อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น อาการท้องอืดหรือปวดหน่วงบริเวณท้องน้อย
• แม้ความเสี่ยงจากการดมยาสลบจะค่อนข้างต่ำ แต่ทุกขั้นตอนจะอยู่ภายใต้การดูแลของวิสัญญีแพทย์ เพื่อให้มั่นใจถึงความปลอดภัย

ทำไมควรเลือก Bangkok IVF Clinic สำหรับบริการเก็บไข่ ?

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

นำโดย นท. นพ. วิวรรธน์ ชินพิลาศ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 29 ปี ร่วมกับแพทย์และพยาบาลที่พร้อมให้การดูแลอย่างใกล้ชิดในทุกขั้นตอน เพื่อให้คุณมั่นใจถึงความปลอดภัยตลอดการรักษา

ห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐาน

เรามีห้องปฏิบัติการสำหรับการเก็บไข่ พร้อมด้วยนักวิทยาศาสตร์เพาะเลี้ยงตัวอ่อน (Embryologists) ที่ประจำตลอดทั้งปี จึงสามารถควบคุมคุณภาพและความปลอดภัยของทุกกระบวนการได้อย่างต่อเนื่อง

ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการรักษา

ให้การรักษาภาวะมีบุตรยากในทุกรูปแบบ เช่น การทำเด็กหลอดแก้ว (IVF), ICSI, PGT รวมถึงการแช่แข็งไข่ (Cryopreservation) ซึ่งสามารถรองรับได้ทั้งเคสทั่วไปและเคสที่มีความซับซ้อนสูง

การดูแลแบบเฉพาะบุคคล

แพทย์จะวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพเพื่อออกแบบแผนการรักษาที่เหมาะสมและเฉพาะเจาะจงกับแต่ละบุคคล เพื่อเพิ่มโอกาสความสำเร็จสูงสุดในการเก็บไข่และการตั้งครรภ์ในอนาคต

ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้บริการทั่วโลก

ด้วยมาตรฐานการรักษาที่เข้มงวดและผลลัพธ์ที่ได้รับการยอมรับ ทำให้ Bangkok IVF Clinic ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้บริการทั้งในไทยและจากต่างประเทศ

เรื่องราวความประทับใจจากคนไข้ Bangkok IVF Clinic 

วางแผนมีบุตรในอนาคต ด้วยบริการเก็บไข่ที่ Bangkok IVF Clinic

เตรียมความพร้อมเพื่อการมีบุตรในอนาคตด้วยบริการเก็บไข่ ที่ Bangkok IVF Clinic (BIC) ศูนย์รักษาภาวะมีบุตรยากที่พร้อมดูแลคุณทุกขั้นตอน ตั้งแต่การตรวจประเมิน การกระตุ้นรังไข่ ไปจนถึงการจัดเก็บไข่ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ทั้งความปลอดภัยและคุณภาพ

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมถึงกระบวนการ และวิธีการเก็บไข่สำหรับคุณผู้หญิง รวมถึงการเตรียมตัวเก็บไข่ และราคา เราพร้อมให้คำแนะนำในทุกรายละเอียด และช่วยวางแผนการมีบุตรที่เหมาะสมกับคุณโดยเฉพาะ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

โทร : +(66)02-933-1584 ถึง 6

Line@ : @Bangkokivfclinic

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)