Cryo Embryo Freezing 1024x682 1

การแช่แข็งตัวอ่อน

บริการแช่แข็งตัวอ่อน (Embryo Freezing) สำหรับผู้อยากมีบุตร

การมีลูกไม่ใช่เพียงความฝันของคู่รัก แต่คือการสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์ อย่างไรก็ตาม ปัจจัยด้านอายุ สุขภาพ หรือการวางแผนชีวิตอาจทำให้หลายคนยังไม่พร้อมในบางช่วงเวลา “การแช่แข็งตัวอ่อน” จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยเก็บรักษาความพร้อมของการมีบุตรไว้ในอนาคต

Bangkok IVF Clinic (BIC) เป็นศูนย์รักษาภาวะมีบุตรยากชั้นนำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยประสบการณ์กว่า 15 ปี เรามีแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ ห้องแล็บ IVF ที่ได้มาตรฐาน และเทคโนโลยีการเก็บรักษาตัวอ่อน เพื่อเพิ่มโอกาสความสำเร็จและสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ที่ต้องการมีบุตรทุกคน

Embryo คืออะไร ?

Embryo หรือตัวอ่อน คือสิ่งมีชีวิตในระยะเริ่มต้นที่เกิดจากการปฏิสนธิกันระหว่างเซลล์ไข่และอสุจิ เมื่อผสมกันแล้วจะเกิดเป็นเซลล์ตัวอ่อน จากนั้นแพทย์จะนำมาเพาะเลี้ยงในห้องปฏิบัติการจนเติบโตถึงระยะที่เหมาะสม ก่อนจะย้ายกลับเข้าสู่โพรงมดลูกเพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์ต่อไป อีกทั้งหากต้องการเก็บรักษาตัวอ่อนคุณภาพดีเอาไว้ใช้ในอนาคต ยังสามารถใช้เทคนิค “การแช่แข็งตัวอ่อน” เพื่อเก็บรักษาตัวอ่อนเอาไว้ได้อีกด้วย 

การแช่แข็งตัวอ่อนคืออะไร ?

การแช่แข็งตัวอ่อน คือการเก็บรักษาตัวอ่อนด้วยเทคนิคการแช่แข็งแบบผลึกแก้ว (Vitrification) ที่อุณหภูมิ -196°C เพื่อคงสภาพและคุณภาพของตัวอ่อนเอาไว้ โดยตัวอ่อนที่ทำการแช่แข็งจะสามารถเก็บรักษาได้ยาวนานตั้งแต่ 5 ปี และในหลายกรณียังใช้ได้ผลดีแม้เก็บไว้นานกว่า 10 ปี

ทำไมหลายคนจึงเลือกการแช่แข็งตัวอ่อน ?

  • เพื่อเลื่อนการตั้งครรภ์ออกไปจนกว่าจะพร้อม
  • เตรียมความพร้อมก่อนเข้ารับการรักษาด้วยเคมีบำบัดหรือรังสีบำบัดที่อาจกระทบต่อการเจริญพันธุ์
  • เก็บตัวอ่อนคุณภาพดีในช่วงอายุที่เหมาะสม เพื่อเพิ่มโอกาสสำเร็จเมื่อใช้ในอนาคต
  • ลดความจำเป็นในการกระตุ้นรังไข่ซ้ำหลายครั้ง หากต้องการมีบุตรเพิ่มในภายหลัง

ขั้นตอนการแช่แข็งตัวอ่อนที่ Bangkok IVF Clinic

ที่ BIC กระบวนการเก็บและแช่แข็งตัวอ่อนดำเนินการอย่างรัดกุมและเป็นระบบ โดยมีแพทย์และนักวิทยาศาสตร์ด้านเพาะเลี้ยงตัวอ่อนร่วมดูแลอย่างใกล้ชิดทุกขั้นตอน

1. ปรึกษาและวางแผนการรักษา

เริ่มต้นด้วยการพบแพทย์เฉพาะทาง เพื่อตรวจสุขภาพ ตรวจระดับฮอร์โมน และทำอัลตราซาวนด์อุ้งเชิงกราน เพื่อประเมินการทำงานของรังไข่และออกแบบแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุด

2. กระตุ้นรังไข่

ใช้ยาฮอร์โมนกระตุ้นเพื่อให้รังไข่สร้างไข่หลายใบ ซึ่งแพทย์จะติดตามการเจริญเติบโตของไข่อย่างใกล้ชิดผ่านการตรวจอัลตราซาวนด์ดูขนาดถุงไข่และการตรวจระดับฮอร์โมนในเลือด

3. เก็บไข่และปฏิสนธิ

เมื่อถุงไข่เจริญเติบโตถึงระยะที่เหมาะสม แพทย์จะฉีดยากระตุ้นไข่ให้พร้อมและทำการเก็บไข่ 36 ชั่วโมงถัดมา หลังจากนั้นจะนำไข่มาผสมกับอสุจิด้วยวิธี IVF หรือ ICSI เพื่อให้เกิดการปฏิสนธิ

4. เลี้ยงตัวอ่อนในห้องแล็บ

ตัวอ่อนที่เกิดขึ้นจะถูกเลี้ยงในห้องปฏิบัติการที่ควบคุมสภาวะอย่างเหมาะสม จนพัฒนาถึงระยะบลาสโตซิสต์ (Blastocyst) ซึ่งถือเป็นช่วงที่มีคุณภาพสูงและพร้อมต่อการเก็บรักษา

5. แช่แข็งตัวอ่อน (Vitrification)

ตัวอ่อนคุณภาพดีจะถูกแช่แข็งด้วยเทคนิค Vitrification ที่อุณหภูมิ -196 °C เพื่อรักษาสภาพและคงคุณภาพให้นำมาใช้ได้ในอนาคต

6. จัดเก็บในห้องแล็บ IVF มาตรฐานสูง

ตัวอ่อนที่แช่แข็งแล้วจะถูกจัดเก็บไว้ในห้องแล็บ IVF มาตรฐานสากล ภายใต้การดูแลอย่างเข้มงวดของทีมนักวิทยาศาสตร์ เพาะเลี้ยงตัวอ่อน ตลอด 365 วัน เพื่อให้มั่นใจว่าตัวอ่อนจะคงคุณภาพจนถึงวันที่นำมาใช้งานจริง

ข้อดี/ข้อจำกัดของการแช่แข็งตัวอ่อน

ข้อดี

  • สามารถเก็บรักษาคุณภาพของตัวอ่อนไว้เพื่อใช้ในอนาคต ช่วยให้สมรสมีตัวเลือกในการตั้งครรภ์เมื่อถึงเวลาที่พร้อม
  • ลดความจำเป็นในการกระตุ้นรังไข่ซ้ำหลายครั้ง ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงและภาระทางร่างกายของผู้หญิง
  • เพิ่มโอกาสสำเร็จในการทำ IVF หรือ ICSI เพราะสามารถเลือกใช้ตัวอ่อนคุณภาพดีที่เก็บรักษาไว้แล้ว 

ข้อจำกัด

  • มีค่าใช้จ่ายทั้งในส่วนของการเก็บรักษาระยะยาวและขั้นตอนการละลายตัวอ่อนเมื่อต้องการนำกลับมาใช้
  • คุณภาพของตัวอ่อนขึ้นอยู่กับอายุของผู้หญิงในวันที่เก็บไข่ ยิ่งเก็บไข่ในช่วงอายุน้อย คุณภาพโดยรวมยิ่งดีกว่า 
  • เมื่อต้องการนำตัวอ่อนกลับมาใช้ จำเป็นต้องผ่านกระบวนการรักษาทางการแพทย์ เช่น การย้ายตัวอ่อนเข้าสู่โพรงมดลูก ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้ชำนาญ

การแช่แข็งตัวอ่อนเหมาะกับใคร/เมื่อไรที่ควรรักษาด้วยวิธีนี้ ?

  • คู่สมรสที่ยังไม่พร้อมมีลูก แต่ต้องการเพิ่มโอกาสสำเร็จของการตั้งครรภ์ในอนาคต
  • ผู้ที่มีโรคบางชนิดหรือกำลังจะเข้ารับการรักษาที่กระทบต่อรังไข่ เช่น เคมีบำบัด
  • ผู้หญิงที่อายุยังน้อยและมีไข่คุณภาพดี ที่แต่งงานแล้วและต้องการเก็บตัวอ่อนสำหรับใช้ในอนาคต
  • ผู้ที่เคยทำ IVF หรือ ICSI แล้วมีตัวอ่อนเหลือและต้องการเก็บไว้ใช้ในอนาคต

ทำไมต้องเลือก Bangkok IVF Clinic สำหรับบริการแช่แข็งตัวอ่อน ?

แพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์

เรามีแพทย์ผู้ชำนาญด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์โดยเฉพาะ นำโดย นพ.วิวรรธน์ ชินพิลาศ ซึ่งมีประสบการณ์มาอย่างยาวนานและดูแลผู้ป่วยมาแล้วนับพันราย มั่นใจในความปลอดภัยและเพิ่มโอกาสความสำเร็จสูงให้แก่คุณ

มีห้องปฏิบัติการ IVF ที่ได้มาตรฐาน

BIC มีห้องแล็บที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในศูนย์ IVF ที่ได้มาตรฐานของประเทศ พร้อมนักวิทยาศาสตร์เพาะเลี้ยงตัวอ่อน (Embryologists) ประจำตลอดทั้งปี เพื่อดูแลคุณภาพของตัวอ่อนอย่างต่อเนื่องและเข้มงวด

เทคโนโลยีการเจริญพันธุ์ที่ตอบโจทย์ผู้ต้องการมีบุตร

ครอบคลุมทุกวิธีการรักษาภาวะมีบุตรยาก เช่น IVF, ICSI, PGT-A, Cryopreservation และ Assisted Hatching ทำให้ผู้เข้ารับการรักษามั่นใจได้ ว่าจะได้รับการรักษาที่เหมาะสมในทุกสถานการณ์

การดูแลแบบเฉพาะบุคคล (Individualized Care)

BIC ใช้ระบบออกแบบการรักษาที่ปรับให้เหมาะกับสรีระและสุขภาพของผู้ป่วยแต่ละราย เพื่อให้ผลลัพธ์ในการแช่แข็งตัวอ่อนมีประสิทธิภาพสูง

ความไว้วางใจจากผู้ป่วยทั้งไทยและต่างประเทศ

ผู้ป่วยจำนวนมากเลือกใช้บริการแช่แข็งตัวอ่อนจากการบอกต่อของครอบครัว และเพื่อนที่ประสบความสำเร็จจริงในการรักษา สะท้อนถึงมาตรฐานและความน่าเชื่อถือของ BIC ในฐานะผู้นำด้านการรักษาภาวะมีบุตรยาก

เรื่องราวความประทับใจจากคนไข้ Bangkok IVF Clinic (BIC)

แช่แข็งตัวอ่อนที่ไหนดี ? เลือก Bangkok IVF Clinic (BIC)

เพื่อเพิ่มโอกาสการมีบุตรในอนาคต ด้วยบริการแช่แข็งตัวอ่อนที่ Bangkok IVF Clinic (BIC) เรามีแพทย์เฉพาะทางด้านเวชศาสตร์การเจริญพันธุ์ ห้องปฏิบัติการ IVF ที่ได้มาตรฐาน และเทคโนโลยีการแช่แข็งตัวอ่อนที่ตอบโจทย์ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าทุกขั้นตอนปลอดภัยและสามารถช่วยเพิ่มความสำเร็จการตั้งครรภ์ในอนาคต

หากคุณสนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการแช่แข็งตัวอ่อน ทั้งเรื่องขั้นตอน ค่าใช้จ่าย และข้อจำกัดต่าง ๆ สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ที่ BIC เพื่อวางแผนอนาคตครอบครัวได้ทันที

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

โทร : +(66)02-933-1584 ถึง 6

Line@ : @Bangkokivfclinic

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

ปลอดภัยสูง เนื่องจากใช้เทคนิคแช่แข็งแบบผลึกแก้วและห้องแล็บมาตรฐานสากล ภายใต้การดูแลของทีมผู้ชำนาญ

Embryo คือเซลล์ตัวอ่อนที่เกิดจากการปฏิสนธิของไข่และอสุจิ ส่วนการฝากไข่คือการเก็บเซลล์ไข่เพียงอย่างเดียว

ได้ แพทย์จะประเมินร่วมกับผู้ป่วยว่าควรเก็บแช่แข็งตัวอ่อนกี่ตัว เพื่อให้เพียงพอต่อแผนการมีบุตรในอนาคต ทั้งนี้จำนวนที่เก็บได้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของไข่และอสุจิในรอบการรักษานั้น ๆ

โดยทั่วไปการแช่แข็งตัวอ่อนไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายของผู้หญิง อย่างไรก็ดี ขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง เช่น การกระตุ้นรังไข่และการเก็บไข่ อาจทำให้มีอาการข้างเดียวจากการกระตุ้นไข่หรือปวดเล็กน้อยชั่วคราวภายหลังการเก็บไข่

การตั้งครรภ์จากตัวอ่อนแช่แข็งให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับตัวอ่อนสด โดยความสำเร็จขึ้นอยู่กับคุณภาพตัวอ่อนและอายุของฝ่ายหญิงในวันที่เก็บไข่ งานวิจัยยืนยันว่าไม่มีรายงานความผิดปกติของทารกที่เพิ่มขึ้นจากการใช้ตัวอ่อนแช่แข็ง

This site is registered on wpml.org as a development site.